วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 – กรมป่าไม้ได้จัดงานวันต้นไม้ประจำปีของชาติขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ราชบพิธสถิตธรรมสถาน คลอง 9 จังหวัดปทุมธานี ภายใต้แนวคิดที่ลึกซึ้งและมีความหมาย “ธรรมะและธรรมชาติ” โดยมีจุดมุ่งหมายในการหลอมรวมพลังศรัทธาทางศาสนาเข้ากับภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้กับประชาชนทุกภาคส่วน
ประธานและผู้เข้าร่วมงาน
พิธีเปิดงานได้รับเกียรติจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป อาทิ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เจ้าคุณพระราชสุทธิธรรมาจารย์ เจ้าคุณพระราชวรเมธาจารย์ พระธรรมวชิรจินดาภรณ์ และพระธรรมรัตนาภรณ์ นอกจากนี้ยังมีนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธีอันทรงเกียรตินี้
ความสำคัญของวันต้นไม้ประจำปีของชาติ
วันต้นไม้ประจำปีของชาติมีความเป็นมาที่สำคัญ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2532 กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ซึ่งถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและยังเป็นวันที่มีความหมายเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ใต้ร่มเงาของต้นไม้ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างพระพุทธศาสนาและธรรมชาติ
สุนทรพจน์ของรัฐมนตรี
ในโอกาสอันสำคัญนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมงานว่า “การปลูกต้นไม้ ไม่ใช่แค่การลงมือปลูกต้นไม้เท่านั้น แต่เป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับคนทุกวัย” พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงหลักการสำคัญของการอนุรักษ์ป่าไม้ ด้วยแนวคิด “หนึ่งต้นไม้ หนึ่งมือปลูก หนึ่งใจรักษา” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของทุกคนในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อประโยชน์ทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและการสืบทอดคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น
สถานการณ์ป่าไม้ของประเทศไทยในปัจจุบัน
รัฐมนตรีได้เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ป่าไม้ของประเทศไทยที่น่ายินดี จากการสำรวจโดยศูนย์วิจัยป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ได้จัดทำโครงการจัดทำข้อมูลสภาพพื้นที่ป่าไม้ ปี 2567 โดยใช้เทคโนโลยีการแปลภาพดาวเทียม พบว่าประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้เป็นจำนวนมากถึง 101,785,271.58 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ป่าไม้ที่ยังคงสภาพเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากปีที่ผ่านมาสูงถึง 101,657,709.89 ไร่ และที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งคือหลายจังหวัดมีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการทำงานอย่างทุ่มเทของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติงานด้านการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างเป็นระบบ ทั้งการปลูก การฟื้นฟู การบำรุงรักษา และการปกป้องทรัพยากรป่าไม้ของประเทศไทย จนเกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
แนวคิด “ธรรมะและธรรมชาติ”
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้กล่าวถึงแนวคิดของการจัดงานในปีนี้ว่า “ธรรมะและธรรมชาติ” เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการหลอมรวมพลังศรัทธาในศาสนาเข้ากับภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของการจัดงานที่ต้องการปลูกจิตสำนึกให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเยาวชน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบจากวิกฤติโลกร้อน และบรรเทาสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน
กิจกรรมและเป้าหมายในการปลูกต้นไม้
กรมป่าไม้ได้กำหนดเป้าหมายที่ท้าทายสำหรับปี 2568 โดยมอบหมายให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ทั่วประเทศร่วมกันปลูกต้นไม้ให้ได้จำนวนมากถึง 100,010 ต้น พร้อมทั้งจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับภารกิจสำคัญของกรมป่าไม้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและปลูกจิตสำนึกในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
นอกจากนี้ ยังได้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าไม้ โดยสามารถติดต่อขอรับกล้าไม้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักส่งเสริมการปลูกป่า ส่วนผลิตกล้าไม้ กรมป่าไม้ โทร. 02-561-4292-3 ต่อ 5551 เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่บ้านหรือชุมชนของตนเอง
กิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ
ไฮไลท์สำคัญของงานในปีนี้คือกิจกรรมปลูกต้นไม้ภายในราชบพิธสถิตธรรมสถาน โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ และผู้เข้าร่วมงานคนสำคัญ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้มงคลหลายชนิด อาทิ ต้นมะริด ต้นจามจุรี และต้นราชพฤกษ์ ซึ่งล้วนเป็นต้นไม้ที่มีความหมายในวัฒนธรรมไทยและมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ
ที่สำคัญ ดร.เฉลิมชัย ได้ปลูกต้นมะริดซึ่งนับเป็นต้นที่ 72 ล้าน ในโครงการ “72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างมากของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่มีความสำคัญยิ่งต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศไทย
ความหวังและอนาคตของป่าไม้ไทย
การจัดงานวันต้นไม้ประจำปีของชาติในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการกระตุ้นจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความหวังและกำลังใจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันฟื้นฟูและรักษาป่าไม้ของไทย ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่งของประเทศ การที่สถิติพื้นที่ป่าไม้ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการดำเนินงานที่ผ่านมา และสร้างแรงจูงใจให้ทุกภาคส่วนมุ่งมั่นทำงานต่อไปเพื่อบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ของประเทศให้มากยิ่งขึ้น
การจัดงานภายใต้แนวคิด “ธรรมะและธรรมชาติ” จึงไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อทางศาสนากับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของกรมป่าไม้ที่ต้องการสร้างความยั่งยืนให้กับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อให้ประเทศไทยยังคงมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์สำหรับลูกหลานของเราในอนาคต
